มารยาทในการพูดที่ดีควรปฏิบัติ

มารยาทในการพูดที่ดีควรปฏิบัติ มีดังนี้

หลังๆ บอร์ดเราดร่าม่าเยอะมากเลยเอามาลงคับ ขออภัย หากบ้างท่าน ได้ไปอ่าน Comman ที่รุนแรงบางอันของข้าพเจ้า ที่รุนแรงบางอัน ทั้งบอร์ดนี้และ บอร์ด BigBus นะครับ กราบขออภัยมา ณ ทีนี้ แต่ส่วนตัวไม่เคยนำไปพูดจาว่าร้ายให้เกมนี้ในทางเสียๆหาย ยกเว้นบางรายเล่นไปเป็นคนๆ ครับ

(จะคุยจะด่า จะเถียงบ้าไรกันก็เชิญแต่ แค่บอร์ด HR กับ BigBustudio จบพอครับ) พอๆ เข้าเนื้อหา

มารยาทการพูดที่ดีควรปฏิบัติ มีดังนี้

- ใช้คำทักทายผู้ฟังให้ถูกต้อง เหมาะสมตามสถานภาพผู้ฟัง เช่น สวัสดี / เรียน

กราบเรียน / ขอประทานกราบเรียน

- ใช้คำพูดที่แสดงถึงความมีมารยาทอยู่เสมอ เช่น ขอโทษ ขอบใจ ขอบคุณ

- ใช้คำพูดที่สุภาพ ให้เกียรติผู้ฟัง ไม่ใช้เสียงดุดัน หยาบคาย

- ไม่พูดยกตนข่มท่าน คุยโอ้อวดว่าตนเหนือกว่าผู้อื่น

- ไม่ชิงพูด แย่งพูดก่อนคนอื่น หรือผูกขาดการพูดเพียงคนเดียว

- ไม่พูดยืดยาว นอกประเด็น พูดวกวนซ้ำซากน่าเบื่อ

- ไม่พูดเสียงห้วนๆ สั้นๆ ตามอารมณ์

- ไม่พูดหยาบคาย ใช้คำต่ำไม่เหมาะสม

- ไม่โต้เถียง คัดค้านอย่างไม่มีเหตุผล


มารยาทในการพูด

กิริยามารยาท เป็นองค์ประกอบที่จำเป็นของการอยู่รวมกันในสังคม
ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่ามารยาทไม่มีบทบาทสำคัญที่จะนำมาซึ่งความสุขและความปิติยินดีให้เกิดขึ้นในของจิตใจมนุษย์
มี ใครบ้างไหม ? ที่ได้รับความทุกข์จากการมีความซื่อสัตย์และซื่อตรงและได้รับความสุขสงบจาก การหาความสุขที่อยู่ภายใต้ร่มเงาของการโป้ปดมดเท็จและทรยศคดโกง ?

การ พูดเท็จ เป็นลักษณะนิสัยที่น่ารังเกียจอย่างหนึ่ง ลิ้นของมนุษย์นั้น แปลความรู้สึกภายในจิตใจของเขาออกมาเป็นภาษา เพราะฉะนั้นถ้าการพูด
เพราะฉะนั้นถ้าหากการพูดเท็จ มีสาเหตุมาจากความอิจฉาริษยา หรือความเป็นศัตรูกันแล้ว มันก็จะแสดงถึงอันตรายของความโกรธที่รุนแรง

การ พูดเท็จจะดับแสงสว่างและรัศมีในชีวิตของมนุษย์ และจะจุดไปแห่งการทรยศคดโกง ขึ้นในตัวเขาและจะทำให้ความผูกพัน ความรัก สามัคคีนั้นขาดสะบั้นลง
และ จะทำให้ความหน้าไหว้หลังหลอกนั้น แพร่สะบัดออกไป สำหรับคนที่มีความตั้งใจชั่วร้ายนั้น การพูดเท็จของเขาจะช่วยเปิดประตูให้เขาเข้าไปถึงจุดมุ่งหมายที่เห็นแก่ตัว
ด้วย การซุกซ่อนความจริงเอาไว้เบื้องหลัง ด้วยถ้อยคำที่เหมือนมนต์สถดของเขา ทำให้ผู้อื่นมีบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ต้องตกเป็นทาส เพราะความเท็จ

ผู้ที่ใช้ลิ้นพูดแต่ในเรื่องศาสนา เท่านั้น ที่จะหลีกเลี่ยงความชั่วนี้ได้ เพราะคนเหล่านี้
เขาจะไม่ปล่อยให้ลิ้นของเขากระดกไปโดยไม่เกิดประโยชน์ต่อชีวิตและความศรัทธาของเขา
และต่อสถานที่อันนิรันดร์แห่งการพักผ่อนของเขา

ทุกคนมักจะพูดกันว่า "พูดง่ายแต่ทำยาก ถ้าเราลองคิดดูดีๆ เราจะเห็นได้ว่า การพูดนั้นไม่ได้ง่าย อย่างที่เราคิดเลย
แต่ มันเป็นเพราะความเคยชินของเขาที่จะพูดอะไรออกมาโดยที่ไม่ได้คิด พูดออกมาตามที่ใจตัวเองต้องการ แต่เราได้คำนึงถึงจิตใจของผู้ฟังหรือเปล่า
ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นในหัวใจของเขา คนเรามันก็น่าแปลกดี ที่ต้องการจะพูดให้ผู้อื่นฟัง แต่ไม่ได้คำนึงเลยว่า
ผู้ฟังต้องการหรือรัก ชอบ ที่จะฟังหรือเปล่า ขอแค่ใจมันอยากพูดอย่างนั้นหรือ ?

การที่เราจะพูดให้ถูกต้องได้นั้น เราต้องคิดแล้วคิดอีก เลือกแล้วเลือกอีก เพื่อที่จะให้ได้มา
ซึ่งคำที่สวยงามและเหมาะสมที่สุดและต้องถูกกาลเทศะ ท่านศาสดา(ศ) ได้กล่าวว่า
" แน่แท้ บรรดาที่เชื่อใครๆมากที่สุด ก็คือ ผู้ที่พูดความจริงบ่อยที่สุดนั่นเองและผู้ที่สงสัยใครๆมากที่สุด ก็คือ ผู้ที่โกหกบ่อยที่สุดเช่นกัน "

เรามาดูว่าเราจะสามารถรักษาโรคร้ายจากคำพูดนี้ได้อย่างไร 

๑. เงียบ เราจะเห็นว่ายิ่งพูดมาก โอกาสผิดก็ยิ่งมาก อย่างการเขียนก็เช่นกัน ยิ่งเขียนมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะผิดก็มีมากเท่านั้น
แต่ ถ้าไม่เริ่มเขียน โอกาสทีจะผิดก็ไม่มี แต่ดั่งที่รู้กันแล้วว่า คำที่เราเขียนนั้น ถ้าผิด เราก็ลบมันได้ แต่คำพูดของเราที่ได้ทำลายจิตใจผู้อื่นนั้น
มันไม่สามารถที่จะลบความปวดร้าวที่อยู่ภายในจิตใจของเขาได้ เพราะฉะนั้นเราก็เลือกพูดแต่สิ่งที่จำเป็นเท่านั้น

การเงียบบ่งบอกถึงการใช้สติปัญญา ท่านอิมามอะลี(อ.)ได้กล่าวว่า : " เมื่อไหร่ที่สติปัญญาสมบูรณ์สูงส่งแล้ว คำพูดของเขาก็จะน้อยลง "

๒. คิดก่อนพูด คำพูดนั้น จะออกมาจากความคิดและผ่านการกลั่นกรองที่ออกมาจากหัวใจ

๓. เราต้องคิดอยู่เสมอว่า คำพูดที่จะพูดออกไปนั้น มีคนกำลังอัดมันไว้ เมื่อเราคิดเช่นนี้ เราก็จะพยายามเลือกสรรคำพูดที่สวยงามและไพเราะที่สุดมาใช้
ให้เหมือนกับ เวลาที่มีการสัมภาษณ์ออกทีวี และเราจงรู้ไว้ว่ารอบๆตัวเรานั้นมีเครื่องอัดเสียงอยู่ ซึ่งมันจะอัดทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่สิ่งเล็กๆน้อยๆก็ตาม

อย่างไรก็ตาม เพื่อการสร้างคุณลักษณะนิสัยที่ดีให้เกิดขึ้น เราต้องสังเกตดูตัวเรา
และรักษาความตั้งใจที่บริสุทธิ์เอาไว้ เราต้องรวบรวมเอาความคิดที่ดีงามทั้งหมดไว้ในหัวใจของเราให้เข็มแข็ง
เพื่อที่จะนำเอาดวงวิญญาณของเราออกจากความมืดมาสู่สว่าง

0 ความคิดเห็น: